เส้นเลือดในสมองตีบ คืออะไร?
เส้นเลือดในสมองตีบ เป็นความผิดปกติของหลอดเลือดสมองอย่างหนึ่ง เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคหลอดเลือดสมอง สิ่งที่ทำให้เส้นเลือด หรือหลอดเลือดตีบ คือการที่มีลิ่มเลือดเข้าไปอุดตันในเส้นเลือดระหว่างที่เลือดกำลังไหลไปตามกระแสเลือดเข้าสู่สมอง หรืออาจจะมีลิ่มเลือดก่อตัวขึ้นในหลอดเลือดสมอง และขยายใหญ่ขึ้นจนอุดตันเส้นเลือดในสมอง หรือก่อให้เกิดการตีบของเส้นเลือดในสมองจนบางครั้งทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก ทั้งนี้ยังพบอาการอื่นๆ อีก เช่น ทำให้เกิดไขมันสะสมในเส้นเลือด ทำให้หลอดเลือด หรือเส้นเลือดมีความตีบแคบลง มีความยืดหยุ่น และทำให้การลำเลียงเลือดมีประสิทธิภาพลดลง เหมือนท่อน้ำที่ตันจากเศษอาหาร
ปัจจัยเสี่ยงของการเป็นเส้นเลือดในสมองตีบ
– อายุที่มากขึ้น ทำให้เกิดความเสื่อมสภาพลงของหลอดเลือดไปด้วย โดยผิวชั้นในของผนังหลอดเลือดด้านในอาจจะหนา หรืออาจจะแข็งขึ้นจากการที่มีไขมันไปสะสม หรือหินปูนมาเกาะ ทำให้รูในเส้นเลือดแคบลง เลือดก็ไหลเวียนได้น้อยลง
– เพศชาย มีความเสี่ยงต่อโรคเส้นเลือดในสมองตีบ รวมไปถึงโรคในตระกูลหลอดเลือดสมองมากกว่าผู้หญิง
– พบภาวะการแข็งตัวของเลือดเร็วกว่าปกติ ทำให้อาจจะมีความเสี่ยงของการที่เม็ดเลือดจับตัวกัน หรืออาจเกิดลิ่มเลือดได้ง่ายกว่าคนทั่วไป
– ความดันโลหิตสูง เป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญของผู้ป่วยเส้นเลือดในสมองตีบ
– เบาหวาน การที่มีโรคประจำตัวอย่างเบาหวานอยู่แล้วย่อมเป็นสาเหตุทำให้หลอดเลือดแข็งทั่วร่างกาย หากเกิดอาการหลอดเลือดแข็งที่สมอง ก็จะมีภาวะเสี่ยงที่จะเกิดโรคเส้นเลือดในสมองอุดตัน และโรคหลอดเลือดสมองอื่นๆ มากกว่าคนทั่วไปถึง 2-3 เท่า
– ไขมันในเลือดสูง เป็นปัจจัยที่สำคัญของโรคเส้นเลือดในสมองตีบ เพราะอยู่ในภาวะไขมันสะสมอยู่ในผนังหลอดเลือดมากเกินไป จนทำให้เข้าไปกีดขวางการลำเลียงเลือดเข้าสู่สมอง
– โรคหัวใจ เช่น ลิ้นหัวใจผิดปกติ หรือหัวใจเต้นผิดจังหวะ อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดลิ่มเลือด และอาจเข้าไปอุดตันที่เส้นเลือดในสมอง จนทำให้สมองขาดเลือดได้
– สูบบุหรี่ เพราะนิโคติน และคาร์บอนมอนอกไซด์ทำให้ปริมาณออกซิเจนลดลง เป็นตัวทำลายผนังหลอดเลือด ทำให้ผนังหลอดเลือดแข็งตัว เพียงแค่สูบบุหรี่ทำให้มีความเสี่ยงในการเป็นโรคที่เกี่ยวกับหลอดเลือดสมองมากถึง 3.5 %
– ยาคุมกำเนิด ผู้หญิงที่ใช้ยาคุมกำเนิดที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนสูงเป็นเวลาติดต่อกัน อาจมีความเสี่ยงในการเป็นโรคหลอดเลือดสมองมากกว่าผู้หญิงที่ไม่ได้ใช้ยาคุมกำเนิด
– โรคซิฟิลิส เป็นสาเหตุของอาการหลอดเลือดอักเสบ และหลอดเลือดแข็ง
– ขาดการออกกำลังกายอย่างพอเพียง และเหมาะสม
สัญญาณอันตราย “เส้นเลือดในสมองตีบ”
บางครั้งจะพบอาการชา หรือมีอาการอ่อนแรงที่ใบหน้า หรือบริเวณทั้งแขนกับขาไปครึ่งซีกของร่างกาย อาจจะมีอาการร่วมด้วย คือ พูดไม่ชัด ปากเบี้ยว ขยับปากได้ไม่ปกติ หรือน้ำลายไหล กลืนลำบาก ปวด หรือเวียนศีรษะเฉียบพลัน ตาพร่ามัว มองเห็นภาพซ้อน หรือเห็นเพียงครึ่งซีก หรืออาจจะตาบอดข้างเดียวเฉียบพลัน เดินเซ ทรงตัวลำบาก อาการเหล่านี้อาจเกิดเพียงชั่วคราวแล้วหายไป อาจจะเกิดขึ้นหลายครั้งเป็นๆ หายๆ ทั้งนี้อาจจะมีอาการตอนที่หลอดเลือดอุดตันจนมีเลือดไปหล่อเลี้ยงสมองไม่เพียงพอกะทันหัน จนบางครั้งทำให้สมองขาดเลือดถาวร ดังนั้นคุณควรที่จะลองสังเกตอาการของคุณเองบ้าง หากพบว่าอาการต่างๆ ตามที่กล่าวมาเพียงครั้งเดียวแสดงว่านี่อาจเป็นสัญญาณอันตรายแล้ว ควรรีบที่จะเข้าพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายอย่างละเอียดโดยทันที ซึ่งถึงแม้ว่าอาการของโรคอาจไม่ถึงชีวิต แต่ก็อาจเสี่ยงเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาตได้เช่นกัน
การรักษาโรคเส้นเลือดในสมองตีบ
ในการรักษาโรคเส้นเลือดในสมองตีบ ทางการแพทย์จะให้ยาสลายลิ่มเลือดมาให้ผู้ป่วยทานก่อน เพื่อช่วยให้เลือดไหลเวียนได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น ซึ่งการทานยาสลายลิ่มเลือดจะให้ผลดีกับผู้ป่วยที่เริ่มเป็นเบื้องต้นแล้วรีบมาพบแพทย์ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง คือ ไม่เกิน 4.5 ชั่วโมง ซึ่งหากเกินกว่านี้อาจถึงขั้นที่เส้นเลือดในสมองปริ เสี่ยงที่จะแตกจนเลือดออก หากเป็นอาการแบบนี้แพทย์อาจจะพิจารณาไปถึงการผ่าตัด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายต่อสมองที่อาจเกิดขึ้นเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงของความดันโลหิต
วิธีป้องกันโรคเส้นเลือดในสมองตีบ
- ตรวจสุขภาพประจำปีเพื่อค้นหาปัจจัยเสี่ยงก่อนเกิดอาการ
- ควบคุมระดับความดันโลหิต ปริมาณไขมัน และน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติตลอดเวลา
- ควบคุมอาหาร โดยลดอาหารรสเค็ม หวาน และมัน
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อย 3-4 วันต่อสัปดาห์ และอย่างน้อย 30 นาทีต่อครั้ง
- งดการสูบบุหรี่ และดื่มแอลกอฮอล์
- หากมีอาการตามที่กล่าวเอาไว้ใน “สัญญาณอันตราย เส้นเลือดในสมองตีบ” ควรรีบพบแพทย์โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้