รู้ไหมว่าแค่อาการปวดหูธรรมดา อาจนำพาให้คุณได้มีโอกาสใช้เครื่องช่วยฟังได้หากไม่รีบรักษา
สำหรับคนเราที่มีอาการปวดหูส่วนใหญ่หากไม่มีการเจ็บปวดมากจนทนไม่ไหวก็จะไม่รีบไปให้หมอตรวจหรือรักษาเพราะส่วนใหญ่คิดว่าเดี๋ยวสักพักก็จะดีขึ้นเอง แต่คุณรู้หรือไม่ว่าการที่เราปล่อยให้หูมีอาการปวดและปล่อยให้ปวดเรื้อรังไปเรื่อยๆจะมีผลให้ภายในช่องหูของเรามีปัญหาตามมาในภายหลังได้เช่นกัน
ซึ่งสาเหตุในการปวดหูส่วนใหญ่นั้นอาจจะมาจากการที่เราเป็นอาการจากการเป็นโรคอื่นๆอยู่แล้วส่งผลให้มีการปวดร้าวลามมาถึงหู หรือบางครั้งอาจเกิดจากการที่เราปวดด้านในหูโดยตรงเองเลยก็ได้ ซึ่งหากการปวดหูของเรามีสาเหตุมาปัญหาโดยตรงจากหูของเรา มักจะมีอาการดังนี้คือ หูอื้อ
ซึ่งส่งผลให้เราได้ยินเสียงเบาลง ได้ยินเสียงไม่ชัดเจนเหมือนเดิม และหากเกิดอาการเหล่านั้นก็มักจะพบเห็นความผิดปกติของหูด้านนอกมาเป็นองค์ประกอบร่วมด้วย เช่น ส่วนของใบหูมีการบวมและดูเหมือนมีการอักเสบ หรือมีสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในรูหู เช่นพวกมด แมลงตัวเล็กๆ หรือมีขี้หูอุดตันสำหรับคนที่มีขี้หูเยอะ หรือเยื่อแก้วหูอักเสบและแก้วหูทะลุ อาการเหล่านี้คือสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดอาการปวดหัว แต่ถ้าหากไม่ใช้การปวดที่เกิดมาจากสาเหตุข้างต้นที่กล่าวมาการปวดหูจะมีลักษณะของการปวดร้าวของอวัยวะที่อื่นแล้วถึงปวดลามลงมาที่หู ยกตัวอย่างการปวดร้าวมาถึงหูแต่ไม่ใช่สาเหตุการปวดมาจากหูก็คือ การปวดฟัน
ซึ่งเรามักจะพบว่าหากเรามีการปวดฟันหนักมากๆ อาการปวดมักจะรุนแรงและความเจ็บปวดจากการปวดฟันจะส่งผลกระทบให้ปวดมาถึงหูได้เลยทีเดียว หรือบางครั้งการที่เรามีอาการที่เป็นพวกแผลในปาก หรือเป็นแผลที่ลิ้นที่เพดานปาก หากแผลในบริเวณเหล่านี้มีอาการอักเสบและปวดมากๆการปวดก็จะกระทบไปถึงหูได้เลยดีเดียว
ซึ่งหากเรามีอาการหูอื้อ และประสิทธิภาพการได้ยินเสียงของเราลดลง เราสามารถหาตัวช่วยมาดูแลเพิ่มเสียงให้ดังขึ้นได้ด้วยเครื่องช่วยฟัง แต่การที่จะใช้เครื่องช่วยฟังให้ได้ดีมีประสิทธิภาพนั้นเราควรไปปรึกษาแพทย์ถึงอาการของหูของเราให้ชัดเจนถึงการรักษาและการที่จะใช้งานเครื่องช่วยฟังก่อนว่าเราควรจะต้องใช้เครื่องช่วยฟังแบบไหนถึงจะเหมาะกับอาการของหูของเราที่เป็นอยู่ในขณะนี้ได้มากที่สุด เพื่อที่เราจะได้คุ้มค่ากับเงินที่เสียไปจากการที่ต้องซื้อเครื่องช่วยฟังมาใช้งาน
สนับสนุนโดย หวยออนไลน์
